การฝึกลมปราณ
โดย อาจารย์น้อมจิตร เรียงสี
ทำไมจึงต้องฝึกลมปราณ ชีวิตเราจะอยู่ปกติได้ส่วนหนึ่งนั้นขึ้นอยู่กับลมหายใจ ดังนั้นเราจึงควรฝึกการหายใจให้ถูกต้องและมีคุณภาพ คุณภาพของลมหายใจนั้นก็ขึ้นอยู่กับ
- อุปกรณ์ อวัยวะสำหรับการหายใจ
- วัตถุดิบ อากาศที่บริสุทธิ์ปราศจากมลพิษ
- วิธีการ ต้องหายใจอย่างถูกต้องเพื่อให้ได้รับอากาศที่ดีในปริมาณที่มากที่สุดและบรรจุในอวัยวะ สำหรับการหายใจอย่างเต็มที่
วิธีการฝึกหายใจมี 3 รูปแบบคือ
- การหายใจสลับรูจมูก
- การหายใจรูจมูกเดียว
- การหายใจโยคะสมบูรณ์แบบ
การฝึกเริ่มต้นสำหรับผู้ฝึกปราณยาม คือ การหายใจสลับรูจมูก โยคะถือว่าลมหายใจที่ผ่านเข้ารูจมูกขวานั้นเป็นลมหายใจร้อน เรียกว่า ช่องอาทิตย์ ส่วนรูจมูกซ้ายเป็นลมเย็นเรียกว่า ช่องจันทร์
การหายใจแบบรูจมูกเดียวและสลับรูจมูกประโยชน์ คือ
- ทำความสะอาดกายและเพิ่มพลังประสาท
- ทำความสะอาดรูจมูก
- ขจัดความเครียดและความกังวล
- ทำใจให้สงบ
- แก้อาการปวดศีรษะ
- เป็นการช่วยให้นั่งสมาธิได้ง่ายขึ้น
- ช่วยเพิ่มกำลังให้กับปอด
- ช่วยเพิ่มกำลังในการย่อยอาหาร
- ทำให้ระบบประสาทสงบเย็นและกระปรี้กระเปร่า
- ช่วยระบาย ทำความสะอาดโพรงในกะโหลกศีรษะ
- ทำให้สดชื่น เนื่องจากโลหิตได้รับออกซิเจนในปริมาณที่มากกว่าการหายใจปกติ
*** สำหรับผู้ที่มีภาวะความดันผิดปกติ ในการฝึกห้ามกักลมหายใจ ***
1. วิธีการหายใจแบบสลับรูจมูก
แบ่งการฝึกเป็น 2 ขั้นตอนตอน
เตรียม ยกมือขวาขึ้นมา พับนิ้วชี้,กลาง,ก้อยใช้เฉพาะหัวแม่มือและนิ้วนาง
ตอนที่1 (เข้าซ้าย-ออกขวา)
- หายใจออก ด้วยรูจมูกทั้งสองข้าง แล้วใช้หัวแม่มือปิดรูจมูกขวา
- หายใจเข้า ด้วยรูจมูกซ้าย กักลมหายใจ ปิดรูซ้ายด้วยนิ้วนาง
- หายใจออก ด้วยรูจมูกขวา กักลมหายใจ แล้วปิดรูขวา
- หายใจเข้า ด้วยรูจมูกซ้าย กักลมหายใจ แล้วปิดรูซ้าย
- หายใจออก ด้วยรูจมูกขวา
ตอนที่2 (เข้าขวา-ออกซ้าย) ทำตอนละ 15-30 ครั้งติดต่อกัน
2. วิธีการหายใจรูจมูกเดียว
เตรียม ยกมือขวาขึ้นมา พับนิ้วชี้,กลาง,ก้อย ไว้ใช้เฉพาะนิ้วหัวแม่มือและนิ้วนาง
- หายใจออก ด้วยรูจมูกทั้งสองข้าง แล้วปิดรูจมูกขวา
- หายใจเข้า ด้วยรูจมูกซ้ายจนสุด แล้วหายใจออกจนสุดกักลม ปิดรูจมูกซ้าย
- หายใจเข้า ด้วยรูจมูกขวาจนสุด แล้วหายใจออกจนสุด กักลม ปิดรูจมูกขวา
- หายใจเข้า ด้วยรูจมูกซ้ายจนสุด แล้วหายใจออกจนสุด กักลม ปิดรูจมูกซ้าย
(หายใจเข้า-ออก ด้วยจมูกทีละข้างสลับไปมา) ทำติดต่อกันประมาณ 15-20 ครั้ง
3. การหายใจโยคะสมบูรณ์แบบ
แบ่งการฝึกเป็น 3 ขั้นตอน (ช่วงท้อง ช่วงอก ช่วงอกบน)
วิธีการให้หายใจโดยการ หายใจเข้าท้องป่อง-ออกท้องแฟบ
- ช่วงท้อง หายใจออกช้าๆพร้อมแขม่วท้องให้ยุบจนสุด หายใจเข้าช้าๆ ดันผนังหน้าท้องให้ป่องออกมา
- ช่วงอก หายใจออก เลื่อนซี่โครงให้ต่ำลง หายใจเข้าช้าๆในขณะเดียวกันเลื่อนซี่โครงทั้งสองข้างขึ้น หายใจออก เลื่อนซี่โครงให้ต่ำลง เป็นการบังคับลมให้ปล่อยออกช้าๆ
- ช่วงอกบน หายใจออกช้าๆ ทำให้อกบนลด ช่วงไหล่จึงลดลงด้วย หายใจเข้าช้าๆ ยกกระดูกไหปลาร้า ทำให้ไหล่ยกขึ้นกำหนดเฉพาะอกบนหรือมีสติเฉพาะอกบนเท่านั้น ควรฝึกเช่นนี้วันละ 15-20 ครั้ง
ผลทางอายุรเวทของการหายใจโยคะสมบูรณ์แบบนั้นก็คือ
เป็นการให้อากาศแก่ปอดอย่างสมบูรณ์สร้างความสมดุลจัดระบบการทำงานของหัวใจให้เป็นไปอย่างช้าๆลดความดันโลหิตสูง และกระตุ้นระบบการย่อยอาหาร เพิ่มความรู้สึกเงียบและความรู้สึกปลอดภัย จากสิ่งทั้งมวลทำให้ร่างกายและจิตใจสงบลง
- การหายใจระดับที่ 1 (ช่วงท้อง) มีผลดีต่อการพักผ่อนของหัวใจ ลดความดันโลหิตสูง กระตุ้นระบบการย่อยอาหารจัดระบบการย่อยของลำไส้ นวดกล้ามเนื้อภายในของอวัยวะภายในช่วงท้อง
- การหายใจระดับที่ 2 (ช่วงอก) ทำให้การไหลเวียนเลือดของหัวใจไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆดีขึ้น เช่น ตับ ถุงน้ำดี กระเพาะอาหาร ม้ามและไต
- การหายใจระดับที่ 3 (ช่วงอกบน) ทำให้ขั้วปอดแข็งแรง ปรับความสมดุลให้กับหัวใจ หลอดลม แข็งแรง ปรับการทำงานของช่องคอให้สมดุล
บทสรุป
- การฝึกโยคะเป็นการฝึกจิต และพิชิตโรคจึงต้องเน้นลมปราณเข้าไปนวดอวัยวะภายในให้ฟื้นฟูจนมีประสิทธิภาพในการทำงานให้ดีขึ้น
- โยคะเน้นการใช้ลมปราณประสานกับอาสนะ ถ้าท่านหายใจไม่เป็น จะทำอาสนะไม่ถูกต้องอย่างแน่นอน
- การฝึกลมปราณเป็นการฝึกเน้นลมหายใจที่ลึกและยาว จึงทำให้มีการขยายตัวของปอดมากขึ้น ระบบการหายใจมีประสิทธิภาพในการทำงานดีขึ้น
- การฝึกลมปราณจะทำไปพร้อมๆกับการบริหารกล้ามเนื้อเส้นเอ็นและกระดูก เพื่อปรับสมดุลของร่างกาย ได้มีโอกาสอยู่กับตัวเอง เพื่อพิจารณาหาข้อบกพร่อง ของตัวเองและแก้ไขข้อบกพร่องเหล่านั้นโดยใช้หลักของโยคะ
ขอขอบคุณ : อาจารย์น้อมจิตร เรียงสี
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุตรดิตถ์
0 ความคิดเห็น