About Me

header ads

โรคหลงตัวเอง(NPD)กับยาค๊อกเทลตำรับพระพุทธเจ้า

ความหลง มีอยู่ในมนุษย์ทุกคน ย้ำ!!! ทุกคนที่ยังต้องเวียนว่ายตายเกิด 
หลงมากจนเกินพอดี ทางโลกเรียกว่า"โรค"  ส่วนทางพุทธศาสนาไม่ว่าหลงมากหลงน้อย รู้ตัวบ้างไม่รู้ตัวบ้าง เรียกว่า "หลง" 
การรักษาโรค ทางแพทย์แผนปัจจุบันบอกว่าต้องใช้เวลาในบางกรณีอาจต้องใช้ยาร่วมด้วย ส่วนทางด้านพระท่านบอกว่า ต้องใช้ปัญญาเป็นเครื่องคอยกำกับ ทั้งสองแนวทางนี้สิ่งที่ต้องมีเหมือนกันคือ ความรู้เท่าทันอารมณ์ตัวเอง จึงจะพอเอาตัวรอดจากความหลงได้ 
ยาแก้อาการ  ยาแผนปัจจุบันต้องไปพบแพทย์ ส่วนยาแผนพระได้จดสูตรไว้ให้ที่ท้ายบทความนี้แล้ว



โรคหลงตัวเอง เรียกสั้นๆว่า NPD (Narcissistic personality disorder)  คือ โรคทางจิตชนิดหนึ่ง ได้ชื่อมาจากตำนานเทพกรีกเล่าถึง นาร์ซิซัส ผู้หลงรักเงาตัวเองในน้ำ นอนเฝ้าดูเงาตัวเองจนตายริมฝั่งและต่อมาได้มีดอกไม้เกิดขึ้น ณ จุดนั้นชื่อว่า "ดอกนาร์ซิซัส" ที่บ้านเราเรียก ดารารัตน์ หรือ แดฟโฟดิล นั่นเอง 

ลักษณะของ NPD มักมีพฤติกรรมในข้อต่อไปนี้ประมาณ 5ข้อขึ้นไป 
อ้างอิงจาก***www.trueplookpanya.com***

  1. ฉันเป็นมือหนึ่งในปฐพี สำคัญตัวเองผิด ผู้ป่วยมักเข้าใจไปเองว่าตัวเองเป็นบุคคลที่มีความสามารถโดดเด่นเหนือคนอื่นทั้งปวงในโลกนี้
  2. ฉันทำอะไรก็เทพหมด คิดว่าตัวเองประสบความสำเร็จในทุกด้านอย่างไม่มีขีดจำกัด เลิศเลอ perfect ไปทุกอย่าง
  3. ไม่มีใครเข้าใจฉันนอกจากขั้นเทพด้วยกัน เข้าใจว่าตัวเองเป็นบุคคลพิเศษ ซึ่งก็จะมีแต่บุคคลพิเศษด้วยกันเท่านั้นที่จะเข้าใจตัวเขาได้
  4. ฉันเท่ห์ที่สุดในโลก ต้องการการชื่นชมสนใจจากคนอื่นมากเกินไป
  5. ก็ฉันยิ่งใหญ่ขนาดนี้ ใครจะทำอะไรฉันได้ มีความรู้สึกว่าไม่ว่าเขาจะทำอะไรก็ถูกต้องไปหมดทุกอย่าง จึงไม่มีความรู้สึกผิดเวลาที่ทำอะไรผิดพลาด
  6. ทำโน่นทำนี่ให้ฉันที ชอบใช้คนอื่นเป็นเครื่องมือเพื่อทำประโยชน์บางอย่างแก่ตัวเองอยู่เสมอ
  7. คนอื่นจะเป็นยังไงฉันไม่สน จิตใจกระด้างเย็นชา ไม่มีความเห็นอกเห็นใจคนรอบข้าง 
  8. นี่ทำอะไรก็เทพหมด / คนอื่นๆ อิจฉาฉันเพราะฉันเก่งกว่าพวกนั้นทุกคน อิจฉาริษยาคนรอบข้าง และ/หรือ มีความเชื่อว่าคนอื่นๆ รอบตัวกำลังอิจฉาตัวเขาอยู่
  9. อะไร ๆ ที่ไม่ถูกใจถือว่างี่เง่าหมดสำหรับฉัน แสดงความหยิ่ง ยะโส โอหัง ออกมาทั้งทางพฤติกรรม คำพูด และทัศนคติ


ลักษณะหลงของผู้ศึกษาปฏิบัติธรรม แต่!!! มีพฤติกรรมเบี่ยงเบนไปจากคำสอนของพระพุทธเจ้า อ้างอิงจากข้อความเผยแพร่ว่าคัดลอกจาก "คู่มือการศึกษาพระอภิธัมมัตถสังคหะ วัดระฆังโฆสิตาราม" (โน๊ตไว้ก่อน ยังไม่เห็นต้นฉบับ)  เช่น 

  1. อติมานี มีมานะจัด มีนิสัยหยาบกระด้าง ปากร้าย บุคคลอื่นแนะนำตักเตือนไม่ได้
  2. โกธาภิภูโต มักโกรธ หงุดหงิดรำคาญง่าย ไร้เหตุผล
  3. พหุภาณี พูดมาก ไม่รู้จักกาลเวลา ไม่เลือกสถานที่ และบุคคล ขาดความสุภาพ
  4. สาเถยยมายาวี เป็นคนเจ้าเล่ห์ มารยา มีเจตนาแอบแฝงที่ไม่ดี หน้าด้าน ไม่รู้จักอาย เป็นคนแก้ยาก
  5. ปาปิจฺโฉ มีความมักมาก แสวงหาปัจจัย โดยไม่ชอบธรรม ชอบคลุกคลี ในทางที่ไม่เหมาะสม
  6. ถทฺธี เป็นคนตระหนี่เหนียวแน่น ชอบกอบโกย ชอบสะสม ชอบใช้อภิสิทธิ์ หรือวางอำนาจเหนือบุคคลอื่น มีอัธยาศัยคับแคบ ไม่ต้องการเห็นคนอื่นดีกว่าตน
  7. อามิสาภิมุขี เป็นคนเห็นแก่ประโยชน์จำเพาะหน้า มุ่งหน้าแต่เรื่องลาภสักการะ ชื่อเสียง ยศตำแหน่ง เป็นต้น
  8. สทฺธมฺมปฏิมุขี หันหลังให้พระสัทธรรม คือ ไม่ชอบฟังพระสัทธรรม ชอบหมกหมุ่นแต่ในเรื่องเดรัจฉานกถา หรือ ไม่ให้ความสำคัญแก่พระสัทธรรม สนใจและให้ความสำคัญแต่ในเรื่องทางโลก (โลกาธิปไตย หรือ โลกานุวัฒน์ ) หรือเอาความคิดเห็นของตนเป็นใหญ่ เป็นเครื่องตัดสิน (อัตตาธิปไตย) ขาดความมั่นคงและความเคารพยำเกรง ในพระสัทธรรม
  9. มุฏฐสฺสติ ขาดจิตสำนึกในความเป็นกัลยาณชน ขาดความยั้งคิด ปล่อยตัวปล่อยใจไปตามกระแสกิเลส
  10. อคมฺภีรปญฺโญ มีความคิดไม่เฉียบแหลม มีวิสัยทัศน์คับแคบ มองโลกในแง่ร้าย ขาดโยนิโสมนสิการ คือ พิจารณาเหตุผลและเหตุการณ์ให้รอบคอบ
ผลกระทบจากความหลง
ผู้ที่มีอาการหลงตัวเอง มักสร้างความเบื่อหน่ายไม่สบายใจให้แก่ผู้คนรอบข้าง จนในบางครั้งเลยเถิดไปส่งผลเสียต่อหน้าที่การงานอย่างคาดไม่ถึง ดังนั้นเราจึงควรสำรวจตัวเองด้วยความซื่อสัตย์ว่าเรามีพฤติกรรมเหล่านี้บ่อยหรือไม่ การมองเห็นข้อเสียของตัวเองและปรับปรุงแก้ไขจะช่วยให้เราอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างมีความสุข
ผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยโรคหลง ต้องให้วัคซีนตัวเองด้วยสติ ต้องหนักแน่น ไม่หวั่นไหวต่อมิจฉาทิฏฐิ ใช้พรหมวิหาร4 ไล่ไปตามลำดับ คือเมตตา กรุณา มุทิตา และสุดท้ายถ้าไม่ไหวจริงๆก็ต้องใช้ อุเบกขา เว้นระยะห่างทางสังคม เพื่อป้องกันตนเองไม่ให้ป่วยจิตป่วยใจไปตามเขา แต่ที่สำคัญที่สุดคือ อย่าไปเกลียดชังเขา เพราะความเกลียดชังนั้นเปรียบเสมือนสิ่งสกปรกที่มาเกาะกุมใจ พอกพูนมากเท่าไหร่ ใจก็ยิ่งมืดมัวหน่วงหนัก เป็นทุกข์โทษที่เราสะสมของเราเอง

ยาค๊อกเทลตำรับพระพุทธเจ้า เรียกว่า "อริยทรัพย์7" เป็นยาแก้และยากันหลงที่วิเศษขนานหนึ่ง ประกอบไปด้วย
  1. ศรัทธา มีความเชื่อ โดยเชื่อแบบรู้เหตุรู้ผล
  2. ศีล รักษา กาย วาจา และใจให้เรียบร้อย ไม่สร้างทุกข์ก่อโทษให้ใครทั้งสิ้นแม้แต่ตัวเอง
  3. หิริ ละอายต่อบาปและกรรมชั่ว 
  4. โอตตัปปะ เกรงกลัวต่อบาปและกรรมชั่ว (แต่จงอย่ากลัวคนชั่ว)
  5. พาหุสัจจะ หาความรู้ให้มากๆ เปิดใจกว้างๆ รับฟังผู้อื่นเยอะๆ
  6. จาคะ ให้ทาน บริจาค เสียสละเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ช่วยเหลือผู้อื่น
  7. ปัญญา ทำความเข้าใจให้ถ่องแท้ ในเหตุในผล ดีชั่ว ถูกผิด ไม่ฝักใฝ่ในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงห้าม
ยาเจ็ดสิ่งนี้ ให้กินสองเวลา ตอนเช้าเมื่อตื่นลืมตา และก่อนเข้านอนในตอนกลางคืน

   อย่ามัวเสียเวลาหาคนหลง
ตัวเราเองนี่แหละงงหลงทุกที่
เกิดชาตินี้หากสูญเปล่าเศร้าสิ้นดี
เกิดอีกทีควรดีกว่าช้าอยู่ใย

   อันดีชั่วใครเมามัวก็เรื่องเขา
ชั่วของเราขัดให้หมดจนสดใส
แม้ไม่หมดก็ดีกว่าไม่ทำอะไร
ตัวของใคร ของมัน แค่นั้นเอย



แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น